ลงโฆษณาขายของผ่านfacebookแต่ไม่มีใครซื้อ มีแต่ยอดไลค์

ลงโฆษณาขายของผ่าน facebookแต่ไม่มีใครซื้อของมีแต่ยอดไลค์ สำหรับท่านที่กำลังประสบปัญหานี้ ให้หาสาเหตุก่อนว่าเกิดจากอะไร

1. สาเหตุอาจเกิดจากรูปภาพสินค้าไม่สวย ไม่ดึงดูการซื้อ
2. ดูไม่น่าเชื่อถือ อาจจะเพราะยอดไลค์เพจน้อย ไม่ลงที่อยู่ หรือช่องทางติดต่อให้ละเอียด
3. หรือสาเหตุอาจจะเป็นเพราะสินค้าของท่านไม่เหมาะสำหรับลงโฆษณาใน facebook ก็ได้ …ในบางครั้ง สินค้าชนิดเดียวกัน ลงขายผ่านทางช่องทางต่างกัน ยอดขายก็จะต่างกัน ซึ่งบางทีสินค้าของท่านอาจจะเหมาะกับการทำโฆษณาเนียนๆในรูปแบบ content marketing  หรือเหมาะสำหรับลงโฆษณาผ่าน google ก็ได้

ดังนั้นถ้าเกิดลงโฆษณาแบบเสียเงินผ่าน facebook แล้วไม่มียอดขาย…อย่าพึ่งท้อ แนะนำให้ลองช่องทางอื่นๆดู เช่น โปรโมทตามกลุ่มเฟซ ,ไลน์กลุ่ม , การทำอันดับให้เว็บไซต์ให้ติดหน้าหนึ่งในgoogle, การขายของผ่านyoutube ,การทำ content marketing ฯลฯ

ซืงผมได้มีสอนไว้ในอีบุ๊คสอนขายของออนไลน์แล้วท่านใดที่ต้องการศึกษาสามารถซื้อมาอ่านที่บ้านได้เลยในราคา 490 บาท(อัพเดทเนื้อหาผ่านอีเมล์ตลอดชีพ)
ดูรายละเอียดได้ที่ http://e-booktraining.blogspot.com/search/label/e-book/

ทำไมต้องติดอันดับใน google

ขายของออนไลน์ทำไมต้องติดอันดับต้นๆใน google

การที่เว็บไซต์ขายสินค้าของเราติดอันดับต้นๆในหน้าแรกของ google ..มันก็เหมือนกับว่าเรามีหน้าร้านขายของที่อยู่ในทำเลที่ดี คนพลุกพล่าน  เมื่อคนเข้าเยอะ ก็เท่ากับคนเห็นสินค้าเยอะ ซึ่งก็ทำให้มีโอกาสขายของได้เยอะครับ และที่สำคัญถ้าติดอันดับในคำค้นที่ดี อย่างเช่น “ร้านขายเคสมือถือ” ก็ถือเป็นทำเลที่ดีเยี่ยมสุดๆเพราะที่ลูกค้าค้นหาในกูเกิลก็เพราะต้องการสินค้าที่เราขายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

อีกทั้งในทุกวันนี้ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเชื่อถือ google มากๆโดยเฉพาะคนไทย ถ้าเกิด เว็บไซต์ของคุณอยู่ในอันดับ top 3 ของ google ผู้ใช้ส่วนใหญ่มักจะคิดว่า เว็บไซต์ของคุณมีความน่าเชื่อถือ google ถึงเอามาแสดงในลำดับแรกๆได้ และจำนวนไม่น้อยที่คิดว่าเว็บที่อยู่อันดับแรกๆเป็บริษัทขนาดใหญ่…ยิ่งคุณได้รับความเชื่อถือมากเท่าไหร่ คุณยิ่งขายของได้มากเท่านั้น

มีหลายครั้งที่ผมได้ยินลูกค้าบอกว่า.. ค้นใน google เจอสินค้าของคุณ

ดั่งที่คุณต๊อบเถ่าแก่น้อยได้กล่าวไว้ว่า การที่สินค้าจะขายได้มีอยู่ 3 ข้อคือ  ข้อ 1 ทำเล  ข้อ2  ทำเล ข้อ3 ก็ ทำเล...ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่งแล้วครับ

สำหรับท่านที่อยากทราบวิธีทำให้ติดอันดับ ผมได้รวบรวมวิธีทำไว้ในอีบุ๊คเล่มนี้เเล้วครับ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ http://e-booktraining.blogspot.com/search/label/e-book/

ข้อดีในการลงโฆษณากับกูเกิล(Google Adword)

การลงโฆษณากับกูเกิล(Google Adword) มีข้อดีคือไม่ต้องรอนาน สามารถทำให้หน้าเว็บไซต์ หรือหน้าขายสินค้าของเราติดหน้าแรกกูเกิลได้ตั้งแต่วันแรกที่ลงโฆษณา โดยสามารถเลือกคำค้นที่ต้องการให้ติดอันดับได้ทันที

อย่างเช่น ถ้าหากคุณอยากให้เว็บอยู่อันดับต้นๆของการค้นหากูเกิลในคำว่า “ขายเคสมือถือ Samsung” ก็สามารถประมูลสู้กับคู่แข่งได้เลย  โดยอัตราที่ประมูลจะเป็นราคา/คลิก บางคำค้นที่คู่แข่งเยอะ ราคาประมูลต่อคลิกอาจสูงถึง10-15 บาท ..แต่ถ้าสินค้าไม่มีคู่แข่งก็สบายไป เสียแค่ประมาณคลิกละ 1-2 บาทเท่านั้น

*ตำแหน่งของโฆษณาแบบ adword จะอยู่ด้านบนสุด(ในกรอบสีแดงที่ผมล้อมไว้ สังเกตจะมีคำว่า โฆษณา ระบุไว้)

โดยคำค้นที่ใช้ลงโฆษณา ควรเป็นคำที่ต้องการสั่งซื้อ หรือต้องการสินค้าจริงๆ อย่าไปใส่คำกว้างๆอย่าง ”เคสมือถือ” เพราะว่าคนที่ค้นคำนี้อาจจะต้องการแค่เลือกดูรูปเคสเล่นๆก็ได้ แต่ยังไม่ได้ต้องการซื้อในขณะนั้น… คำค้นที่ผู้ค้นต้องการซื้อเลยก็ประมาณนี้ครับ “เคสมือถือโนเกีย 820 ราคา” ,  “เคสมือถือราคาถูก” , “ร้านขายเคสมือถือในเชียงใหม่”  , “ขายเคสมือถือซัมซุง A7 ” เป็นต้น …แต่ถ้าหากใส่คีย์เวิร์ดที่ยาว หรือเจาะจงลึกเกินไปจนคนค้นหาน้อยเกิน โฆษณาก็จะไม่ถูกแสดงนะครับ

ซื่งถ้าเราคัดกรองคีย์เวิร์ดในการลงโฆษณาให้ดี จะสามารถทำกำไรได้สูง พูดง่ายๆคือคำไหนลูกค้าคลิกแล้วไม่สั่งสินค้าคัดออกไปเลย เหลือไว้เฉพาะที่ทำเงินจริงๆ มีสินค้าของผมอยู่หมวดนึง กำไร 300-500 บาท/ชิ้น  วันนึงผมขายได้เฉลี่ย 2 ชิ้น/วัน โดยเสียค่าโฆษณา adword ไม่กี่บาท เฉลี่ยอยู่ที่ 10-20 บาท/วัน  …เป็นไงครับ เงิน 10-20 บาทแลกเงิน 600-1000 บาท

แนะนำให้เลือกคีย์เวิร์ดที่คนคลิกแล้วซื้อครับผม

ท่านสามารถเข้าใจหลักการทำงานของ google adword ได้โดยการดูคลิปนี้

สร้างยอดขายให้เพิ่มขึ้นด้วยหัวข้อโฆษณา

สร้างยอดขายให้เพิ่มขึ้นด้วยหัวข้อโฆษณา : ในทุกวันนี้มีเนื้อหา(content) และโฆษณา(ad) ออกมาเป็นจำนวนมาก..ไล่ไปตั้งแต่

• สื่อสิ่งพิมพ์(หนังสือพิมพ์ , นิตยสาร , หนังสือ)
• สื่อทางทีวี(ฟรีทีวี,เคเบิลทีวี)
• สื่อทางอินเตอร์เน็ต(youtube,facebook,twiiter,webbord,website )
• ป้ายโฆษณาที่ขึ้นอยู่เรียงรายตามริมถนน และแหล่งชุมชน

ซื่งถ้าหากมี content ออกมาเป็นจำนวนมากผู้คนจะเลือกเสพเฉพาะเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น หรือเรื่องที่เขาสนใจเท่านั้น ..ในกรณีที่เป็นสื่อโฆษณาผู้คนจะสนแต่เรื่องที่สามารถแก้ปัญหาให้เค้าได้เท่านั้น

ดังนั้นควรกำหนดหัวข้อโฆษณาให้น่าสนใจ และสื่อให้ลูกค้ารู้ว่าเค้าจะได้อะไรจากตัวสินค้า โดยให้อธิบายให้ครอบคลุม กระชับ และตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุด..เพราะเวลาโพสต์หรือลงประกาศขาย ถ้าเกิดจั่วหัวข้อขึ้นมาไม่น่าสนใจ กลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าของคุณจะเลื่อนผ่านหรือมองผ่านไปเฉยๆ โดยไม่ได้เข้าไปอ่านเนื้อหาเลย

สรุป : สิ่งที่จำเป็นมากในการโพสต์ขายสินค้าคือหัวข้อต้องดี ต้องกระชับ ต้องน่าสนใจและชวนให้ติดตามให้เข้าไปอ่านต่อเพื่อให้คุณสามารถปิดการขายได้ในที่สุด

ยกตัวอย่างด้านล่าง สินค้าชนิดเดียวกัน แต่โพสขายต่างกัน คนสนใจก็จะต่างกัน
1. ร้านก๊องแก้งบิวตี้แอนด์เฮลตี้ ขายครีมหอยทากราคาถูก นำเข้าเองมาจากประเทศชิลี
2. ครีมหอยทากผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติช่วยเร่งผิวขาวพร้อมลดริ้วรอยในตัว มีอย.

กรณีที่ลูกค้าที่ไม่เคยรู้จักสินค้าตัวนี้มาก่อนเลย หัวข้อที่ 2 จะมีคนสนใจเข้าไปดูมากกว่าอยู่แล้ว เพราะสื่อให้รู้ชัดเจนว่าครีมตัวนี้เป็นครีมอะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง…และเป็นการกำหนดกลุ่มเป้าหมายไปในตัว เพราะกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาดูจะต้องเป็นคนที่อยากผิวขาว และคนที่อยากลดริ้วรอย…ซื่งถ้าเป็นโฆษณาที่ต้องเสียเงินจะทำให้ประหยัดเงินเพราะจะช่วยกันผู้คนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายออกไป

ซื่งวิธีดังกล่าวสามารถนำไปประยุกต์ได้ทั้งการขายของแบบออนไลน์และออฟไลน์ครับผม