ทำไมไม่ควรกดซื้อโฆษณาในมือถือ หรือกดปุ่ม Boost Post?

ทำไมไม่ควรกดซื้อโฆษณาในมือถือ หรือกดปุ่ม Boost Post?

คำตอบคือ "คุณอาจจะไม่ได้กลุ่มเป้าหมายที่ซื้อจริงๆ"
เพราะอะไร?

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าโฆษณาแบบ Boost Post ปัจจุบันสามารถซื้อได้ 3 เป้าหมายสำคัญคือ
1. เพิ่มคน Engage กับโพสต์นั้นๆ
2. ให้คน Message มาคุยกับเพจเพิ่ม
3. ถ้าเป็นโพสที่ไม่ใช่รูปภาพ เช่น ลิงค์เข้าเว็บ หรือ วีดีโอ ก็จะสามารถ เปลี่ยนเป้าหมายเป็น เพิ่มคนดู หรือ คนเข้าเว็บได้

ซึ้งเป้าหมายที่ว่านี่สำคัญมากครับเพราะระบบ Algorithm ของ facebook จะปรับค่าเพื่อให้ ต้นทุนต่อ 1 เป้าหมาย เช่น Cost / Engagement หรือ Cost / visit ถูกที่สุด

ทำไงล่ะ ก็จะเอากลุ่มเป้าหมายที่คุณเลือกไว้ แล้วก็เอาไปแสดงให้คนที่มีแนวโน้มจะกด Engage กับโพสนั้นๆ ดูวีดีโอ หรือ เข้ามาดูในเว็บ ให้เยอะที่สุด

ซึ่งปัญหาคือ กลุ่มนี้อาจจะไม่ใช่คนซื้อหรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเลยด้วยซ้ำ และระบบก็จะพยายามส่งโฆษณาไปหาคนกลุ่มนี้เรื่อยๆ เพื่อเพิ่มผลลัพธ์ ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ (ถ้าใครกดตั้งเป้าหมายกว้างๆ เช่นผู้ชายกรุงเทพอายุ 18-40 ไว้จะโดนแบบนี้เยอะเลยครับ)

ดังนั้นถ้าเป้าหมายของการโฆษณาของคุณไม่ใช่สามข้อข้างบนแล้ว การ Boost Post อาจจะทำให้คุณเสียเงินไปโดยได้ผลกลับมาน้อยกว่าที่ควร (จริงๆ Boost Post ก็มีข้อดี เช่นง่าย หรือ สามารถสร้างโพสขยับดุ๊กดิ๊กจากภาพได้อัตโนมัติ)

ทำไงดี คำตอบอยู่ที่นี่ครับ การย้ายไปซื้อโฆษณาทั้งหมดบนระบบที่ใหญ่กว่า ใช้ยากกว่า แต่มีความสามารถมากกว่ามากมาย คือที่นี่ครับ https://facebook.com/adsmanager/

ถ้าเข้าไป เราสามารถจะสร้างโฆษณาตามเป้าหมายของเราได้มากมาย ถ้าใครทำเว็บ ก็สามารถจะทำโฆษณาให้คนเข้ามาซื้อของเราได้เลย

โฆษณาตามเป้าหมายมีแบบคร่าวๆ ตามนี้ครับ

กลุ่มแรก กลุ่มสร้าง Awareness เน้นให้คนรู้จัก

1. Brand Awareness เน้นให้คนกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสจะจำแบรนด์เราได้ผ่านระบบวัดผลที่เรียกว่า Ad recall lift

2. Reach เน้นเข้าถึงคนให้ได้จำนวนมากที่สุด (จะต่างกับตัวแรกตรงที่ตัวแรกจะเน้นให้คนเห็นบ่อยกว่า จนจำได้ แต่อันนี้จะเน้นให้เข้าถึงคนให้มากที่สุด)

กลุ่มสอง เน้นสร้างปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มคนที่กำลังสนใจ หรือกำลังตัดสินใจว่าจะซื้ออะไรดี

3. Traffic เน้นดึงคนเข้าเว็บ เพื่อเข้าไปอ่านหรือดูเนื้อหาที่เราต้องการ สามารถตั้งได้ว่าจะวัดผลเป็น Landing Page View (เข้าแล้วนั่งดูนานกว่าค่าที่ fb กำหนด (ตัวนี้ต้องติด Pixel)) หรือ เน้นจำนวนคนคลิกเยอะๆ ก็ได้ (สามารถส่งคนไปที่ LINE@ ได้ แต่ซับซ้อนหน่อย)

4. Engagement เน้นดึงคนให้เข้ามา Engage กับเพจให้มากๆ แบ่งเป้าได้อีก 3 ประเภทเช่น เน้นเพิ่มคน Like เพจ เน้นเพิ่มคน Engage โพส หรือ เน้นคนกดร่วม Event

5. App install เน้นให้คนลงแอพเพิ่ม ผ่าน App Store (ตัวนี้มี condition พิเศษด้วยว่าต้องมี user เท่าไหร่ถึงจะซื้อได้)

6. Video Views เพิ่มคนดู video สามารถตั้งเป้าหมายให้คนดูวีดีโอ 2 วิ หรือ 10 วินาที หรือ ไปถึง 15 วินาที (เรียกว่า ThruPlay) ก็ได้

7. Lead Gen เน้นสร้างฐานข้อมูลคนสนใจ เช่นการเก็บข้อมูลชื่อที่อยู่หรือเบอร์โทร เพื่อเอามาใช้ในการปิดการขายต่อไป

8. Message เน้นให้คนกดมาคุย Message กับเรา ซึ่งจะเป็น FB Messenger หรือ Whatsapp ก็ได้

กลุ่มสุดท้าย ซับซ้อนหน่อย แต่เจ๋งมากๆ ข้อแม้คือต้องติดตั้ง Pixel เอาข้อมูลเชื่อมกับ facebook หรือ สร้าง Business Place

9. Conversion เน้นให้ลูกค้าเข้ามาทำอะไรบางอย่างที่เราต้องการ เช่น ซื้อสินค้า หรือ โหลดไฟล์ White paper โดย facebook จะพยายามปรับให้โฆษณาแสดงไปหาคนที่มีแนวโน้มที่จะทำตาม action Conversion ที่เราต้องการ (ต้องติด Pixel หรือสร้าง URL Event)

10. Catalog Sales ตัวนี้เหมาะกับ eCommerce ที่มีสินค้ามากกว่า 1 อย่าง โดย facebook จะช่วยเราเอาภาพสินค้า ตามกลุ่มเป้าหมายที่จะมีโอกาสกดซื้อตามข้อมูลที่ facebook มีขึ้นมาให้อัตโนมัติ (ต้องสร้าง Catalog Product ใน Business Manager)

11. Store Traffic เน้นให้คนไปที่หน้าร้าน หรือ ซื้อของที่หน้าร้าน โดย (ต้องสร้าง Business Locations หรือ Offline Conversion Event) ตัวหลังผมยังไม่เคยใช้ แต่ถ้าเป็นตัวแรก จะเน้นไปที่สร้างให้คนกด Get Direction ปรับตามตำแหน่งของคนที่เห็นโฆษณา

ซับซ้อนแต่สามารถเอาไปใช้อะไรได้เยอะนะครับ อยากให้ทุกคนซื้อโฆษณาผ่าน AdsManager กันนะครับ