ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ใครๆ ก็บ่นว่าค้าขายยาก ฝืดเคืองไปหมด ขืนเปิดธุรกิจตอนนี้ก็มีแต่จะเจ๊งนั่นแหละ มันจริงหรือ ถ้าจริงแปลว่า ทุกวันนี้ ใครๆ ก็ประสบกับการขาดทุนใช่มั้ย ซึ่งในความเป็นจริงไม่ใช่เช่นนั้นแน่ๆ
เศรษฐกิจแบบนี้ คือโอกาสของคนที่จะประสบความสำเร็จ เพราะรู้จักคิดต่างจากคนอื่น เพราะบางคนหวาดกลัวจึงไม่เริ่มต้น นั่นหมายความว่า เป็นภาวะที่เราลดคู่แข่งไปอีกหนึ่ง จึงเป็นโอกาสที่ดีมาก
แน่นอนว่า โลกนี้เป็นโลกของผู้ชนะ ในตลาดที่จำกัดก็เช่นกัน ความสำเร็จเกิดขึ้นกับคนที่คิดต่าง ทำต่าง และลงมือทำทันที ในหนังสือ HOW TO เกี่ยวกับการตลาดทั่วไป มักจะพูดถึงสิ่งนี้อยู่เสมอ คนที่เชื่อว่า การคิดต่างสามารถทำให้ประสบความสำเร็จ และยืนอยู่ได้ในท่ามกลางความล้มเหลวของคนที่คิดซ้ำอยู่จุดเดิม คือ จุดที่บอกว่า ทำไม่ได้หรอก เพราะ …บลา บลา บลา
เปลี่ยนมุมมอง เพราะเหรียญมีสองด้านเสมอ
- เรากำลังทำเพื่อใคร แทนที่เราจะคิดถึงแต่ตัวเอง มองแต่ผลประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง ลองเปลี่ยนมุมมองดูบ้างว่า ธุรกิจที่เรากำลังทำอยู่นั้นมีประโยชน์ต่อผู้อื่นอย่างไร แล้วมีความสุขอยู่กับจุดนั้น พัฒนาและปรับปรุงเพื่อความสุขของผู้อื่นดูบ้าง สิ่งที่กลับมาจะทำให้คุณต้องประหลาดใจว่า ความสุขที่คุณอยากให้กับคนอื่น มันย้อนกลับมาเป็นรูปธรรมที่ทำให้คุณขายของได้ เพราะโดนใจผู้ซื้อ
- เศรษฐกิจอย่างนี้ เหมาะที่จะขายของ เปลี่ยนมุมความคิดที่ว่า เศรษฐกิจไม่ดี ใครๆ ก็ไม่ซื้อ แท้จริงแล้ว ไม่ใช่ แต่เป็นการเลือกซื้อของที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปต่างหาก เพราะชีวิตยังต้องดำเนินไป ยังต้องกิน ต้องใช้ เพื่อการดำเนินชีวิตอยู่ สินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต คุณภาพที่เหมาะสมกับราคาคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการ คุณกำลังขายสิ่งนั้นอยู่หรือไม่ ถ้าใช่ คุณนี่แหละคือ คนที่ค้าขายดีในเศรษฐกิจแบบนี้
ตั้งแต่เริ่มต้นชีวิต เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองมาแล้วตั้งหลายครั้ง หากจะต้องเปลี่ยนแปลงอีกสักครั้ง เพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน ใครล่ะจะไม่อยากเปลี่ยน
อย่าติดแล้วคิดวนกับของเดิม!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น